
การจัดการ ป้องกันมลพิษ และของเสีย
เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
ความมุ่งมั่น
ในทุกก้าวของการดำเนินธุรกิจ เอพี (ไทยแลนด์) ไม่ได้มองแค่การสร้างที่อยู่อาศัย แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเมืองกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง การจัดการมลพิษและของเสียจึงกลายเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญที่ฝังอยู่ในกระบวนการทำงานขององค์กร เอพี (ไทยแลนด์) ตระหนักดีว่า มลพิษจากการก่อสร้างและของเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละโครงการไม่เพียงแต่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ เอพี (ไทยแลนด์) จึงได้กำหนดแนวทางอย่างชัดเจนในการลดการปล่อยมลพิษจากทุกขั้นตอน ทั้งการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยี ในพื้นที่ก่อสร้างและอาคารที่ส่งมอบแล้ว เพื่อควบคุมฝุ่น ควัน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ในด้านของเสีย เอพี (ไทยแลนด์) เชื่อว่าการจัดการที่ดีเริ่มต้นจากจุดกำเนิด ทุกไซต์งานจึงมีการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ขณะเดียวกันเรายังพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพและนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการ เพื่อช่วยลดการใช้น้ำใหม่อย่างมีนัยสำคัญ ไม่เพียงเท่านี้ เอพี (ไทยแลนด์) ยังยึดถือแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นแนวทางหลักในการพัฒนา เช่น การนำวัสดุก่อสร้างเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ทั้งในรูปแบบของงานภูมิทัศน์หรือสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวในพื้นที่โครงการ ตลอดจนการร่วมมือกับคู่ค้าเพื่อคัดเลือกวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรืออัพไซเคิลได้ ซึ่งช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
การจัดการมลพิษ ของเสีย และน้ำเสียเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกระบวนการก่อสร้างและการดำเนินโครงการอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งจากขยะก่อสร้าง ฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ และน้ำเสียที่ปล่อยสู่ระบบนิเวศ กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น เช่น การลดฝุ่น PM2.5 การจำกัดของเสียฝังกลบ และมาตรฐานคุณภาพน้ำเสียที่ปล่อยออกจากโครงการ ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ต้นทุนของวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจหมุนเวียนเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เช่น คอนกรีตรีไซเคิลและเหล็กรีไซเคิล ลดปริมาณขยะ และเพิ่มมูลค่าทรัพยากรที่มีอยู่ การใช้เทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM) ช่วยลดของเสียจากการออกแบบผิดพลาด
ขณะเดียวกัน บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเสียโดยการใช้ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย และ การนำน้ำรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ เอพี (ไทยแลนด์) มีโอกาสในการพัฒนาโครงการที่ใช้วัสดุที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงคุณภาพน้ำเสีย และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งไม่เพียงช่วยลดมลพิษ แต่ยังสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจและคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
เอพี (ไทยแลนด์) มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยให้ความสำคัญกับการจัดการมลพิษและของเสียอย่างเป็นระบบ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงกระบวนการจัดการของเสียจากการก่อสร้างและการดำเนินงาน รวมถึงการควบคุมมลพิษทางอากาศและน้ำเสีย เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการของบริษัทสามารถรองรับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสากล
การจัดการคุณภาพน้ำทิ้ง
เอพี (ไทยแลนด์) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริหารจัดการน้ำทิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ โครงการของบริษัทดำเนินการภายใต้แนวทางที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การควบคุมคุณภาพน้ำที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ (Water Recycling) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและลดผลกระทบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

ในทุกโครงการของ เอพี (ไทยแลนด์) ได้มีการติดตั้ง ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน สำหรับรองรับน้ำทิ้งจากอาคารพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง ก่อนทำการปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือระบบระบายน้ำภายนอก โดยบริษัทได้ดำเนินการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งอย่างสม่ำเสมอให้เป็นไปตามค่ามาตรฐานที่กำหนดโดยกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2567 บริษัทดำเนินมาตรการ นำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ในกิจกรรมภายในโครงการ อย่างเป็นระบบ เช่น การรดน้ำต้นไม้ การทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง และการใช้ในระบบลดฝุ่นละออง ทั้งนี้เพื่อช่วยลดการใช้น้ำประปาและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า นอกจากนี้ เอพี (ไทยแลนด์) ยังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาแนวทางการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อาทิ การเลือกใช้พรรณไม้ที่ทนแล้งในงานภูมิทัศน์ และการปรับปรุงระบบชลประทานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการ

การจัดการมลพิษอากาศ
เอพี (ไทยแลนด์) ตระหนักดีว่าการควบคุมมลพิษทางอากาศเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดฝุ่นละอองที่ส่งผลต่อสุขภาพของชุมชนโดยรอบ เราจึงออกแบบมาตรการควบคุมฝุ่นแบบองค์รวม ทั้งในด้านเทคนิค วิศวกรรม และการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการพัฒนาของเราจะไม่กลายเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม
ในปี 2567 นี้ เอพี (ไทยแลนด์) ได้เสริมมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการติดตั้งรั้วทึบและตาข่ายกันฝุ่น การพรมน้ำเป็นระยะ การปิดคลุมวัสดุก่อสร้างและวัสดุที่มีโอกาสฟุ้งกระจาย การจำกัดความเร็วของรถในไซต์งานไม่เกิน 20 กม./ชม. และการล้างล้อรถก่อนออกจากพื้นที่ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมฝุ่น PM10 ให้อยู่ในระดับที่ไม่เกินมาตรฐาน โดยเรากำหนดค่ามาตรฐานไว้ที่ไม่เกิน 0.12 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสามารถควบคุมได้ในทุกโครงการตามรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ
ในโครงการขนาดใหญ่ เอพี (ไทยแลนด์) ยังได้นำระบบตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 แบบเรียลไทม์มาใช้ เพื่อให้สามารถปรับมาตรการในแต่ละช่วงเวลาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจริง และเพื่อความโปร่งใส เรายังจัดแสดงข้อมูลคุณภาพอากาศไว้บริเวณหน้าโครงการ เพื่อให้สาธารณชนสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ไม่เพียงแต่ภายนอกอาคาร ด้านคุณภาพอากาศภายในอาคารเอง เอพี (ไทยแลนด์) ได้เลือกใช้วัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งที่ไม่มีค่าการปล่อยสาร VOCs รวมถึงออกแบบระบบระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดี และติดตั้งเครื่องฟอกอากาศใน Clubhouse เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ
ในปี 2567 ไม่พบข้อร้องเรียนจากชุมชนในเรื่องมลพิษทางอากาศ ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากมาตรการเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความตั้งใจจริงของ เอพี (ไทยแลนด์) ที่จะพัฒนาโครงการอย่างรับผิดชอบ เพื่ออนาคตของสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคน
การจัดการขยะ และของเสีย
เอพี (ไทยแลนด์) ให้ความสำคัญกับการจัดการขยะและของเสียในทุกกระบวนการของธุรกิจ ทั้งในพื้นที่สำนักงาน โครงการก่อสร้าง และพื้นที่อยู่อาศัย ผ่านแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและลดของเสียให้ได้มากที่สุด
แนวทางบริหารจัดการประกอบด้วย 3 มิติหลัก ได้แก่ การออกแบบที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมการใช้วัสดุและการจัดการของเสียในไซต์งาน และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน ผู้อยู่อาศัย และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้เกิดการแยกและกำจัดของเสียอย่างเหมาะสม

กิจกรรมสำคัญในปี 2567 เช่น:
- โครงการ “Waste to Value” ที่ร่วมมือกับบริษัท Q-CON นำเศษวัสดุก่อสร้าง เช่น เศษอิฐหรือคอนกรีต มารีไซเคิลเป็นอิฐบล็อกช่องลม เพื่อนำกลับไปใช้ในโครงการจริง ลดปริมาณขยะก่อสร้างและการใช้ทรัพยากรใหม่
- โครงการ “แยก-เท-ได้” (Know Waste, No Waste) ซึ่งมีการตั้งห้องพักขยะเพื่อคัดแยก ณ หน้าโครงการ พร้อมการรณรงค์และให้รางวัลแก่ผู้อยู่อาศัยและพนักงานที่มีส่วนร่วม ส่งผลให้ในปี 2567 มีโครงการเข้าร่วมแล้วกว่า 30 โครงการ และลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 19,345 kgCO2e เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 2,021 ต้น
- การส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างจิตสำนึกแก่พนักงานผ่านกิจกรรมรณรงค์ “แยกขยะ เริ่มที่เรา เพื่อโลกที่ยั่งยืน” และการติดตั้งถังขยะแบบใหม่เพื่อรองรับการแยกขยะ 5 ประเภทในสำนักงาน
- การบริหารของเสียอันตราย เช่น หลอดไฟ สารเคมี จะถูกแยกเก็บและส่งต่อให้หน่วยงานที่มีใบอนุญาตกำจัดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน
เอพี (ไทยแลนด์) ในด้านการบริหารจัดการขยะ และของเสีย เพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนของบริษัทได้ บริษัทได้จัดให้มีการสื่อสารและจัดกิจกรรมเพื่อให้พนักงานทุกคนได้เข้าร่วมเรียนรู้ในการจัดการขยะ และของเสีย รวมถึงทีมบริหารจัดการอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรร เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับ การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เทคนิคการลดของเสียจากกระบวนการก่อสร้าง
การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ
เอพี (ไทยแลนด์) ตระหนักดีว่าการบริหารจัดการมลพิษและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง จึงให้ความสำคัญกับ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณของเสียจากกระบวนการก่อสร้าง และสนับสนุนแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน

บริษัทยังได้ร่วมมือกับ ซัพพลายเออร์ที่จัดหาวัสดุก่อสร้าง และคู่ค้าในการคัดเลือกวัสดุเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการอย่างการนำ คอนกรีตคาร์บอนต่ำ มาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ปล่อยคาร์บอนสูงในอุตสาหกรรมก่อสร้าง และยังพยายามอย่างมากเพื่อลดของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการก่อสร้าง และเพิ่มโอกาสในการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด
ความร่วมมือเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ เอพี (ไทยแลนด์) สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ แต่ยังช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเป้าหมายขององค์กรในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย