
การบริหารจัดการความเสี่ยง
ผลการดำเนินงาน
ความมุ่งมั่น
เอพี (ไทยแลนด์) ตระหนักดีว่าการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการบริหารความเสี่ยงให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร โดยบูรณาการการบริหารความเสี่ยงเข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางธุรกิจในทุกระดับ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ ป้องกัน และจัดการกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารความเสี่ยงเป็นไปตามมาตรฐานสากลและตอบสนองต่อบริบทของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
บริษัทได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) ที่มีหน้าที่กำกับดูแลและให้คำแนะนำด้านการบริหารความเสี่ยงแก่ฝ่ายจัดการ รวมถึงพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่สามารถปรับตัวได้ตามสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและความท้าทายใหม่ ๆ นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีความตระหนักรู้ด้านความเสี่ยง โดยเสริมสร้างความเข้าใจและขีดความสามารถในการบริหารความเสี่ยงให้กับพนักงานทุกระดับ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น บริษัทเชื่อมั่นว่าด้วยแนวทางดังกล่าว จะช่วยให้เอพี (ไทยแลนด์) สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขัน สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น และส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ปลอดภัยและยั่งยืนแก่ลูกค้า ตลอดจนมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและมีความรับผิดชอบในระยะยาว
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายในหลายมิติ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มผันผวน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและต้นทุนทางการเงินของธุรกิจ นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดหาที่ดินและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
อีกหนึ่งความท้าทายสำคัญคือการบริหารความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแล เนื่องจากภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการออกกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม การก่อสร้างที่ยั่งยืน และมาตรฐานด้านพลังงาน ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงขึ้น อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความยืดหยุ่น รองรับเทคโนโลยี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด
อย่างไรก็ตาม การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเปิดโอกาสให้กับองค์กรในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายศักยภาพทางธุรกิจ การพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับมาตรฐานด้านความยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการบริหารโครงการและวิเคราะห์แนวโน้มตลาด จะช่วยให้บริษัทสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้ การสร้างระบบบริหารความเสี่ยงที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคต
แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
เอพี (ไทยแลนด์) ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในฐานะเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพทางธุรกิจ
บริษัทจึงมุ่งมั่นพัฒนาแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมและเป็นระบบ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ ป้องกัน และรับมือกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารความเสี่ยงของบริษัทไม่ได้เป็นเพียงกลไกในการป้องกันความเสียหายเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทได้กำหนดโครงสร้างและแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่เป็นระบบ โดยบูรณาการการบริหารความเสี่ยงเข้ากับกลยุทธ์องค์กร และการดำเนินงานในทุกระดับ ทั้งในระดับคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกส่วนงานขององค์กรมีแนวทางที่ชัดเจนในการระบุ วิเคราะห์ ประเมิน และบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กระบวนการบริหารความเสี่ยง
บริษัทได้ประยุกต์ใช้แนวทางของ COSO Enterprise Risk Management - Integrated Framework ฉบับปี 2017 (2017 COSO ERM) ร่วมกับแนวทางความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) ในกระบวนการบริหารความเสี่ยง โดยนําเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในรูปแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ เช่น การกําหนดระดับความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ (Risk Appetite) การประเมินและจัดลำดับความเสี่ยงโดยใช้แผนภาพความเสี่ยง (Risk Map) การติดตามความเสี่ยงผ่านแผนบริหารความเสี่ยง (Mitigation Plan) และดัชนีชี้วัดความเสี่ยงที่สำคัญ (Key Risk Indicator: KRI)

โดยกระบวนการบริหารความเสี่ยงมีทั้งหมด 8 ขั้นตอนตามภาพด้านล่าง ดังนี้

วัฒนธรรมองค์กรด้านความเสี่ยง
การส่งเสริมวัฒนธรรมความเสี่ยงองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและปลูกฝังให้พนักงานทุกระดับมีความตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดกว้าง รวมถึงมีนโยบายและกระบวนการที่ชัดเจนในการระบุ วิเคราะห์ และจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้เพื่อสร้างองค์กรที่มั่นคงและสามารถปรับตัวได้ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บริษัทจึงได้กำหนดให้มีกระบวนการการบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดให้มีการทบทวนความเสี่ยงองค์กรเป็นประจำทุกไตรมาส รวมถึงการพิจารณาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk) ให้ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ปัจจัยภายนอก และภายในที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท
โดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงได้พิจารณารายงานผลการดำเนินงานด้านความเสี่ยง และให้ข้อเสนอแนะที่ช่วยให้กระบวนการบริหารความเสี่ยงดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และความเสี่ยงอยู่ในระดับที่บริษัทยอมรับได้ นอกจากนี้ ยังผลักดันให้การบริหารความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร โดยสนับสนุนให้บริษัทกำหนดนโยบายเฉพาะเรื่อง เช่น นโยบายการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการต่อต้านการคอร์รัปชัน และนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน เป็นต้น