เอพี (ไทยแลนด์) ให้ความสำคัญกับ การประเมินประเด็นด้านความยั่งยืน เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทสามารถตอบสนองต่อประเด็นสำคัญที่มีผลกระทบต่อองค์กรและผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างเหมาะสม โดยดำเนินการตามแนวปฏิบัติระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารจัดการด้าน ESG มีความครอบคลุม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

กระบวนการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

เอพี (ไทยแลนด์) ใช้กระบวนการประเมินและจัดอันดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืนผ่าน 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้:

1
วิเคราะห์ประเด็นสำคัญครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

บริษัททำการระบุประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยอ้างอิงจากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งรวมถึง:

  • ด้านผลิตภัณฑ์ ความเชี่ยวชาญ กลยุทธ์การดำเนินงาน สภาพแวดล้อมเชิงธุรกิจ
  • ด้านกิจกรรมการดำเนินงาน ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ความเสี่ยง และโอกาสในการสร้างผลกระทบต่อมิติด้านความยั่งยืน
  • แนวโน้มด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรม
2
ระบุผลกระทบประเด็นที่สำคัญด้านความยั่งยืน
บริษัทกำหนดประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับองค์กรและการคาดการณ์แนวโน้มของอุตสาหกรรม
3
ประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
บริษัททำการประเมินประเด็นสำคัญในเชิงผลกระทบ โดยพิจารณาทั้งผลกระทบทางบวก (Positive Impact) และผลกระทบทางลบ (Negative Impact) พร้อมทั้งประเมินระดับความรุนแรง (Severity) และโอกาสที่จะเกิดขึ้น (Likelihood) เพื่อจัดลำดับความสำคัญของแต่ละประเด็น
4
จัดอันดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืน
บริษัทนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ไปจัดลำดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืน พร้อมทั้งกำหนดแนวทางบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน ESG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์จากการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

เอพี (ไทยแลนด์) ดำเนินการประเมินและจัดอันดับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนเป็นประจำทุกปี เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียและแนวโน้มด้าน ESG ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผลการประเมินล่าสุดได้รับการบูรณาการเข้าสู่กลยุทธ์องค์กรและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนของบริษัท

เอพี (ไทยแลนด์) มุ่งมั่นพัฒนากระบวนการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนให้มีความแม่นยำและรอบด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของเราสามารถสร้างคุณค่าระยะยาวและตอบโจทย์ความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

  • 1
    การบริหารจัดการทรัพยากรและการใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ
  • 2
    การจัดการ ป้องกันมลพิษ และของเสีย
  • 3
    การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • 4
    การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ
  • 5
    การปฏิบัติต่อแรงงานและสิทธิมนุษยชน
  • 6
    การจัดการแรงงาน
  • 7
    การพัฒนาศักยภาพพนักงาน
  • 8
    การจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
  • 9
    การมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน
  • 10
    การกำกับดูแลกิจการและจริยธรรม
  • 11
    การจัดการความเสี่ยง
  • 12
    การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
  • 13
    ความปลอดภัยทางด้านข้อมูลและการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • 14
    การส่งมอบนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับลูกค้าเพื่อชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้