
นวัตกรรมทางธุรกิจเพื่อสังคม
เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
ความมุ่งมั่น
เอพี (ไทยแลนด์) มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยยึดมั่นในแนวคิด “Empowering Living”
ซึ่งสะท้อนถึงการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความทันสมัยและคุณภาพชีวิตที่ดีเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นในการส่งเสริมความยั่งยืนทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทตั้งใจที่จะบูรณาการนวัตกรรมเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีกว่าให้กับทุกคน ผ่านการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในระยะยาว
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีนวัตกรรมและยั่งยืน ลูกค้าทั่วไปไม่เพียงแค่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการที่มีทั้งคุณภาพและยั่งยืน
นอกจากนี้ การพัฒนาที่ยั่งยืนได้กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของธุรกิจและสังคมทั่วโลก ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังมุ่งมั่นสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคม บริษัทที่สามารถปรับตัวและนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเสริมสร้างความไว้วางใจจากลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมีการผลักดันนโยบายที่สนับสนุนการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การปรับตัวและการนำเสนอนวัตกรรมที่สอดคล้องกับแนวโน้มเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวสำหรับทั้งองค์กรและสังคมที่เราอยู่
แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
บริษัท มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมภายใต้แนวคิด "FROM ZERO TO HERO" โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพ สินค้าที่ครอบคลุมมิติด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ Creativity การคิดค้นสิ่งใหม่ที่ตอบโจทย์, Deep Insight เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง และ Business Model โดยมีหน่วยงาน Innovation Lab ในการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการด้านนวัตกรรม ให้สอดคล้องกับความชำนาญในเรื่องของการสร้างบ้าน และที่อยู่อาศัย ให้มีมูลค่าและขยายธุรกิจเติบโตต่อไปได้
ในปีที่ผ่านมา เอพี (ไทยแลนด์) ได้พัฒนาและประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัย อาทิ Smart World แอปพลิเคชันดูแลลูกบ้านแบบครบวงจร, Smart Niti ระบบบริหารนิติบุคคลที่โปร่งใส และ Red Alert ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินที่ช่วยให้การดูแลลูกบ้านมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจของลูกบ้าน ด้วยการนำเสนอบริการใหม่อย่าง FitFriend ที่ส่งเทรนเนอร์ฟิตเนสถึงบ้าน และระบบ KATSAN ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยดิจิทัลที่ช่วยสร้างความอุ่นใจในการอยู่อาศัย พร้อมเปิดให้ใช้งานกับพันธมิตรภายนอกเพื่อขยายผลประโยชน์สู่สังคมในวงกว้าง
ในด้านสิ่งแวดล้อม เอพี (ไทยแลนด์) ยังเดินหน้ายกระดับโครงการอยู่อาศัยให้เป็นมิตรต่อโลก ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ส่งเสริมการแยกขยะ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกการใช้ชีวิตสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ตลอดกระบวนการเหล่านี้ บริษัทไม่หยุดนิ่งในการประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพของแต่ละนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีและบริการของ เอพี (ไทยแลนด์) ยังคงตอบสนองต่อความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ พร้อมเดินหน้าเคียงข้างสังคมไทยสู่ “ชีวิตดีๆ ที่ยั่งยืน” ในทุกวัน
Smart World Application
แอปพลิเคชันที่ถูกสร้างสรรค์จากเทคโนโลยี นวัตกรรม และพัฒนาขึ้นจากทุกเสียงตอบรับจากทั้งลูกบ้านและนิติบุคคล เพื่อสร้างตัวช่วยใหม่ให้ทุกเรื่องบ้านจบง่ายเพียงปลายนิ้ว ผู้อยู่อาศัยสามารถจัดการทุกเรื่อง ที่อยู่อาศัย ครบ จบ ภายในแอปพลิเคชันเดียว เช่น จ่ายบิลค่าน้ำ/ค่าไฟ/ค่าส่วนกลาง ระบบแจ้งเตือนพัสดุและ Tracking Number ป้องกันพัสดุตกหล่น รวมทุกการดูแลบ้านด้วยบริการเรื่องบ้าน อัพเดทข่าวสารจากนิติบุคคล ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ภายในโครงการ และยังมีสิทธิพิเศษมากมายจากหลากหลายพันธมิตรที่ถูกคัดสรรมาให้ลูกบ้านโดยเฉพาะ


Red Alert
SMART Red Alert Team ทีมวิศวกรรมที่เป็นหน่วยตอบสนองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ที่สามารถเข้าถึงหน้างานภายใน 3 ชั่วโมงเมื่อเกิดเหตุ เพื่อให้ลูกบ้านมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที โดยลูกบ้านสามารถติดต่อแจ้งเหตุผ่านทางแชทกับนิติบุคคล ได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งระบบสนับสนุนการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน และปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการที่ส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ไฟดับ ลิฟต์ขัดข้อง ปั๊มน้ำไม่ทำงาน สัญญาเตือนภัย ผ่านแอปพิเคชันไลน์ และโทรศัพท์เพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการแจ้งข่าว พร้อมทั้งจะมีการรายงานเข้าที่ประชุมทุก 3 เดือน เพื่อการพัฒนาระบบให้ดีขึ้น และเพื่อให้การทำงานง่ายและรวดเร็ว จึงได้แบ่งทีมวิศวกรรม ออกเป็น 2 ส่วน
โดยเหตุการณ์ฉุกเฉินที่แจ้งเตือนในระบบ red alert นั้น ระบบจะแบ่งประเภทเรื่องฉุกเฉินที่แจ้งในระบบ RED ALERT ดังนี้
เหตุการณ์ฉุกเฉิน | รายละเอียด | ระยะเวลาในการแก้ปัญหา | |
---|---|---|---|
ปัจจัยภายนอก | ปัจจัยภายใน | ||
เรื่องไฟดับ |
|
|
เข้าช่วยเหลือดำเนินการภายใน 3 ชม |
น้ำรั่ว/น้ำท่วม |
|
|
|
ลิฟต์ |
|
|
|
ปั๊มน้ำ | - |
|
|
Fire alarm system | - |
|
KATSAN LIVING SECURITY
นวัตกรรมระบบรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการที่พักอาศัย โดยระบบนี้มีการใช้เทคโนโลยีการอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ (LPR) ที่มีความแม่นยำสูงถึง 95% เพื่อควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะในโครงการ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดในการระบุตัวตนของยานพาหนะ ลดความเสี่ยงจากการบุกรุกหรืออาชญากรรม
รวมถึงการส่งข้อมูลและการแจ้งเตือนถึงผู้อยู่อาศัยในกรณีฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่ต้องการความสนใจ ทำให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ทันท่วงที อาจช่วยป้องกันความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ระบบ KATSAN นี้ เปิดให้บริการกับลูกค้าภายนอกโครงการ เอพี (ไทยแลนด์) รวมถึงกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้มีการนำนวัตกรรมนี้ ไปใช้เพื่อระบบรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากเดิมการจดข้อมูลสำหรับผู้มาติดต่อต้องใช้เวลาประมาณ 1 นาที แต่ในการใช้งานระบบนี้ทำให้การจดจำข้อมูลผู้มาติดต่อลดเวลาเหลือเพียง 30 วินาทีเท่านั้น และยังลดโอกาสในการบันทึกข้อมูลผิดพลาดอีกด้วย โดยในปัจจุบันบริษัทได้รวมระบบ KATSAN เข้ามาอยู่ใน Smart World Application เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และลดปริมาณกระดาษและหมึกพิมพ์ได้อีกด้วย พร้อมทั้งมีบริการเสริมระบบ Premium ID ให้กับลูกค้า โดยมอบความปลอดภัย สะดวกสบายที่มากกว่าให้กับลูกค้าในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้ 24 ชม. โดยในปี 2567 มีผู้สนใจซื้อระบบ Premium ID 242 ราย มากขึ้นกว่า 175 รายเมื่อเทียบจากปี 2566 และสามารถสร้างรายได้ไห้แก่องค์กรมากถึง 560,413บาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้จากปี 2566 ถึงปี 2567 ประมาณ 79.69%
- จำนวนผู้ใช้งานระบบ KATSAN (ราย) 79.69%
- รายได้จากระบบ Premium ID (บาท) 560,413
- อัตราการเติบโตของรายได้ 242 ราย

Fit Friend
บริการเทรนเนอร์ เดลิเวอรี่ โดยให้บริการทั่วพื้นที่กรุงเทพ โดยเน้นการให้บริการในโครงการที่อยู่อาศัย และอาคาร สำนักงานทั้งรูปแบบ Offline และ Online Project description เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกายให้เข้าถึงได้ง่ายตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลา และสถานที่ในการออกกำลังกาย โดยไม่มีอุปกรณ์ก็เทรนได้ ยืดหยุ่นเรื่องเวลา มีความเป็นส่วนตัว คุ้มค่ากว่าเพราะประหยัดเวลาและค่าเดินทาง หากผู้ใช้บริการทั้ง 196 คน ลดการเดินทางไปยิมโดยรถยนต์เพียง 10 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ เทียบเท่าการลด CO2 ได้ประมาณ 2,000-3,000 กิโลกรัมต่อปี นอกจากการส่งเสริมให้ลูกค้าได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นแล้วนั้น บริษัทยังได้มอบโอกาสในการทำงานของเทรนเนอร์ที่อาจจะไม่ได้มีโอกาสทำงานประจำในฟิตเนส หรือยิมประมาณ 131 คน มีโอกาสมีรายได้เสริมเฉลี่ย 550 บาท/คลาส ซึ่งยังเป็นการขยายฐานลูกค้าและส่งเสริมให้มีรายได้ที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2023
- จำนวนผู้ใช้บริการในปี 2567 196 ราย
- รายได้ (บาท) 3,580,486.74
- อัตราการต่ออายุสมาชิกในปี 2567 63.78%
- เทรนเนอร์มีโอกาสเข้าถึงลูกค้า 131 ราย
- รายได้เสริมของเทรนเนอร์เฉลี่ย 550 บาท/คลาส